ตอน “ดนตรีบำบัด” (音乐治疗 : อินเอวี้ย จื้อเหลียว)
กวิน กสิโอฬาร
นักศึกษาคณะการแพทย์แผนจีน
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
พอบอกว่าจิตวิทยาแพทย์แผนจีน หลายคนทำหน้าสงสัย เพราะอาการทางจิตน่าจะมาจากสาเหตุทางสภาพแวดล้อม ซึ่งสังคมปรัชญาอย่างประเทศจีนน่าจะรวมศาสตร์การดูแลจิตวิญญาณเข้าไปในวิถีชีวิตอยู่แล้ว ใยต้องมีจิตวิทยาแพทย์แผนจีนอีกนะ? เพราะเมื่อเทียบกับลัทธิ ศาสนา คำสอน ความเชื่อ คนในภาคตะวันออกดูมีความจำเป็นน้อยเหลือเกินในการใช้จิตวิทยาทางการแพทย์อีก
แต่ในคนหมู่มาก...ยังมีบ้างไม่ใช่เหรอ ที่ยังมีปัญหาทางจิตเพราะปัญหาด้านชีวภาพ หรืออารมณ์เสียสมดุลในบางครั้ง ดังนั้นเราจึงไม่ทอดทิ้งผู้ป่วยแม้จะเป็นกลุ่มน้อยแค่ไหน
และยิ่งเป็นสังคมปัจจุบัน ที่มีความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจน หลายสิ่งหลายอย่างดูเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผู้ที่อาศัยในสังคมมีการแข่งขันและความเคร่งเครียดมากขึ้น การบำบัดทางจิตวิทยาไม่ว่าจะเป็นของแพทย์แผนไหนก็ล้วนมีความสำคัญแล้วทั้งนั้น
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีการใช้ดนตรีมาบำบัดรักษาเป็นที่นิยมมาก ...จนไม่อยากจะคุยว่า เรื่องการใช้ดนตรีมารักษาอาการทางใจและทางกายน่ะ แพทย์แผนจีนเองก็มีบันทึกเอาไว้มาตั้งแต่ตำรา “หวงตี้เน่ยจิง” (黄帝内经) ซึ่งนับเป็นปฐมตำราทางการแพทย์แผนจีนที่เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อ 2000 กว่าปีก่อนแล้ว และตำราหวงตี้เน่ยจิงนี้ยังแบ่งเนื้อหาเป็นสองส่วน
ในส่วน “灵枢”(หลิงซู) มีบันทึกไว้ในบทที่ 65 ห้าเสียงห้ารส(五音五味) ซึ่งอธิบายของลักษณะของมนุษย์กับเสียงและรสชาติทั้งห้าตามทฤษฎีปัญจธาตุ
และส่วนของ “素问”(ซู่เวิ่น) ในบท 阴阳应象大论 (อินหยางอิงเซี่ยงต้าลุ่น) และบท 金匮真言论 (จินกุยเจินเหยียนลุ่น) ซึ่งอธิบายความสัมพันธ์ของอารมณ์กับเสียงดนตรี
การใช้เสียงดนตรีมาบำบัดนั้นเริ่มมาจากทฤษฏีปัญจธาตุ(五行:โหวงเฮ้ง) ซึ่งได้แยกแยะและจัดสรรพสิ่งเป็นห้าจำพวก
พวกดิน(土) คือ สิ่งที่มีลักษณะอยู่กับที่ หนักแน่น และเป็นต้นกำเนิดสิ่งต่างๆ เช่น อารมณ์ครุ่นคิด ม้าม กระเพาะ ความชื้น
พวกทอง(เหล็ก)(金) สิ่งที่มีลักษณะบริสุทธิ์ เช่น อารมณ์โศกเศร้า ปอด ความแห้ง
พวกไม้(木) คือ สิ่งที่มีลักษณะของการขยายแผ่ซ่าน เช่น อารมณ์โกรธ ตับ ลม
พวกไฟ(火) คือ สิ่งที่มีลักษณะดำเนินทิศสู่เบื้องบน ร้อน เช่น อารมณ์ดีใจ หัวใจ ความร้อน
พวกน้ำ(水) เช่น สิ่งที่มีลักษณะทิศสู่เบื้องล่าง เช่น อารมณ์กลัว ตกใจ ไต ความหนาวเย็น
แม้กระทั่งเสียงดนตรีก็ยังแบ่งออกเป็นห้าธาตุ
เสียง 宫 (กง) จัดเป็นธาตุดิน(土)
มีลักษณะเสียงจม สงบ ทำนองเดียว ให้ความรู้สึกแน่นแต่กว้าง มีอิทธิพลต่อม้าม เทียบได้กับโน้ตตัวโด
เสียง 商 (ซัง) จัดเป็นธาตุทอง(金)
มีลักษณะเสียงสูงก้องกังวาน ละม้ายเสียงโลหะกระทบกัน มีอิทธิพลต่อปอด ให้ความรู้สึกเศร้าแต่มีพลัง เทียบได้กับโน้ตตัวเรา
เสียง 角 (เจ๋ย์) จัดเป็นธาตุไม้(木)
มีลักษณะเสียงมีชีวิตชีวา เบิกบาน และปลอดโปร่งราวไม้ผลิใบ ดอกตูมคลี่กลีบ มีอิทธิพลต่อตับ เทียบได้กับโน้ตตัวมี
เสียง 徵 (จรือ) จัดเป็นธาตุไฟ(火)
มีลักษณะเสียงอบอุ่น คึกคัก มีชีวิตชีวาแต่ก็สบายๆ ไล่ระดับชัดเจน มีอิทธิพลต่อหัวใจ เทียบได้กับโน้ตตัวซอล
เสียง 羽 (อี่ว์) จัดเป็นธาตุน้ำ(水)
มีลักษณะเสียงสะอาดบริสุทธิ์ นุ่นนวล ให้ความรู้สึกวิเวกวังเวงและเศร้าสลด มีอิทธิพลต่อไต เทียบได้กับโน้ตตัวลา
และนอกจากจะแยกเป็นห้าธาตุแล้ว ยังแบ่งเสียงเป็น “หยินหยาง” (阴阳)อีกด้วย
หยาง(阳) ดัง เร็ว เป็นต้น ใช้รักษาอาการแกร่ง หนาว ภายนอก เกิดขึ้นเฉียบพลัน
หยิน(阴) เบา เนิบช้าเป็นต้น ใช้รักษาอาการพร่อง ร้อน ภายใน เป็นมาเรื้อรัง
เมื่อเอาทฤษฎี “หยินหยาง” มาใช้จำแนกกับห้าเสียง ก็จะได้เสียงอีกสิบอย่าง
ดิน - หยาง ดิน - หยิน
ทอง - หยาง ทอง -หยิน
ไม้ - หยาง ไม้ - หยิน
ไฟ - หยาง ไฟ - หยิน
น้ำ - หยาง น้ำ - หยิน
ตามการรักษาสุขภาพด้วยดนตรีของแพทย์แผนจีนนั้นจะใช้กฎการข่มของทั้งห้าธาตุมาใช้
เช่น ดินข่มน้ำ น้ำข่มไฟ ไฟข่มทอง ทองข่มไม้ ไม้ข่มดิน
เมื่อผนวกการ “หยินหยาง” ก็จะใช้ทำนอง “หยิน” ในโรค “หยาง” (หยางแกร่ง,หยินพร่อง) และใช้ทำนอง “หยาง” ในโรค “หยิน”(หยินแกร่ง,หยางพร่อง)
เปิดฟังวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที(ดีที่สุดคือ 70 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 10 นาที) ในห้องเงียบๆ เป็นส่วนตัว หรือใส่หูฟัง ขณะที่กำลังบำบัดปล่อยให้เพลงที่เลือกไว้เล่นไปเรื่อยๆ ไม่ควรปรับเปลี่ยนเพลงตามใจชอบยกเว้นว่าเกิดความเบื่อหน่าย
ตัวอย่าง การนำไปใช้เบื้องต้น
คนที่รู้ตัวว่าเกิดโทสะง่าย จนอาจมีอาการแน่นที่หัวใจหรือศีรษะ แสดงถึงภาวะ “หยาง” ตับกระแทกด้านบน ก็อาจจะเลือกเพลงที่เน้นโน้ตตัวซอล หรือมีเครื่องดนตรีที่ก่อเสียงคล้ายโลหะกระทบกัน หรือมีเสียงสูงก้องกังวาน ในทำนองที่เนิบช้า เพราะเสียงเหล่านี้จัดเป็นธาตุ “ทองหยิน” ข่มความโกรธที่เป็นธาตุไม้
แต่ถ้าหากมีอาการอึดอัด แน่น ถอนหายใจบ่อย แสดงถึงภาวะชี่ของตับอุดตัน ก็ต้องใช้เพลงที่เน้นโน้ตตัวมี ในทำนองรื่นเริง เร็ว ที่สามารถระบายตับปรับชี่มาฟังร่วมกับโน้ตตัวซอล
เด็กเล็กๆ ตื่นกลัวหรือมีปัสสาวะรดที่นอน ขาดความมั่นใจ ใจสั่นรัว ตื่นเต้นง่าย แสดงถึงชี่ไตไม่ขึ้นไปรำงับไฟหัวใจ ก็อาจเปิดเพลงที่เน้นตัวโน้ตโด หรือเสียงที่ฟังดูหนักแน่น มีพลังที่เล่นในจังหวะร่าเริงให้เขาฟัง เพราะเสียงเหล่านี้เป็นธาตุ “ดินหยาง”ข่มความกลัวที่เป็นธาตุน้ำ และธาตุดิน(ม้าม)ยังมีทิศวิ่งขึ้นพยุงรั้งชี่ไตไว้ไม่ให้ตกสู่เบื้องล่างด้วย
คนที่ดีใจมากไปจนหัวใจเต้นเร็วแรง ก็เหมาะกับเพลงที่เน้นโน้ตตัวลา ในทำนองเนิบช้า ผ่อนคลาย เพราะเสียงเป็นธาตุ “น้ำหยิน” ข่มความดีใจที่เป็นธาตุไฟ และที่สำคัญคือมีจังหวะที่ไม่เร็ว เพราะคนเราเมื่อรับฟังจังหวะใดเกินสามนาทีขึ้นไป จังหวะหัวใจก็มักจะเต้นตามจังหวะดนตรีนั้นๆ
แต่ไม่ว่าจะเลือกเพลงแบบไหนมาใช้ สิ่งสำคัญคือผู้ฟังพร้อมหรือไม่ เราอาจเปิดเป็นบรรยากาศได้ แต่ไม่สามารถมาบังคับให้เขาฟังได้ ถ้าเจ้าตัวยังไม่ยอมรับว่าตนเองกำลังอยู่ในภาวะนั้น หรือรู้ตัวดีว่าเป็นอะไรแต่ยังต่อต้านการรักษาด้วยวิธีนี้ รวมทั้งผู้ที่ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้ตัวเองเกิดอารมณ์นั้นๆ
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วอะไรก็คงยากที่จะช่วยเขาได้ เพราะต้องไม่ลืมว่า “แพทย์ที่ดีที่สุดของเราก็คือตัวเราเอง”
แหล่งข้อมูล
ตำรา 中医心理学 (主编/董湘玉,人民卫生出版社)
ตำรา 黄帝内经 (主编/谢华,中医古籍出版社)
http://ngotcm.com/bbs/html/bbs.html