วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2554 www.jiewfudao.com

ชนเผ่าตระกูลถั้วป๋า (拓跋)ที่สถาปนาราชวงศ์เว่ยเหนือ (北魏)ขึ้น และรวมภาคเหนือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นชนเผ่ายอดเยี่ยมสายหนึ่งของชนชาติเซียนเปย(鲜卑) ชนเผ่าถั้วป๋าแต่เดิมไม่มีบ้านเรือน ไม่มีระบบอักษรและกฏหมาย ในช่วงต่อระหว่างราชวงศ์เว่ยกับราชวงศ์จิ้น (魏晋)พวกเขาเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ที่ทุ่งหญ้าทางภาคใต้เชิงเขายินซัน (阴山)และกลายเป็นประมุขของชนเผ่าชาวเซียนเปย 36 ชนเผ่า พวกเขาเริ่มตั้งที่พักอาศัยประจำ มีการพัฒนาเกษตรกรรมและได้ขยายอำนาจอย่างเรื่อย ๆ ปีค.ศ.386 ถั้วป๋ากุย ได้ขึ้นครองราชย์และทรงเปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็นราชวงศ์เว่ย ปี ค.ศ.439 พระเจ้าไท่อู่ตี้ (太武帝)ได้รวมภาคเหนือเป็นเอกราช จึงทำให้ภาวะแตกแยกที่มีมากว่า 100 ปีในภาคเหนือสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามการปกครองในต้นสมัยราชวงศ์เว่ยเหนืออยู่ในภาวะที่ไร้เสถียรภาพตลอด การส่งเสริมการปกครองให้มั่นคงยิ่งขึ้นจึงขึ้นอยู่กับการปฏิรูปขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเซียนเปยและการเร่งลัดเลียนแบบวัฒนธรรมชาวฮั่น(汉)

เขายินซัน (阴山)
พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ (孝文帝) พระนามว่าถั้วป๋าหง (拓跋宏) เป็นนักการเมืองดีเด่นคนหนึ่งในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ พระองค์ทรงคิดว่า การที่จะพัฒนาการปกครองให้มั่นคงยิ่งขึ้นจำเป็นต้องอาศัยการเลียนแบบและเข้ากับวัฒนธรรมชาวฮั่นและการปฏิรูปประเพณีที่ล้าสมัยของชาวเซียนเปย เมื่อปี ค.ศ.490 พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้เริ่มทรงออกว่าราชการเอง และทรงดำเนินมาตรการการปฏิรูปของพระชนนีเหวินหมิง(文明太后)ต่อไป เร่งรัดปฏิรูปประเพณีเก่าแก่ของชาวเซียนเปยและเลียนแบบวัฒนธรรมชาวฮั่นอย่างครบถ้วน

พระเจ้าไท่อู่ตี้ (太武帝) พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ (孝文帝)
พระชนนีเหวินหมิง(文明太后)
เมื่อปีค.ศ.494 พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ได้ทรงย้ายเมืองหลวงจากเมืองผิงเฉิง平城(เมืองต้าถง大同 มณฑลซานซี山西ในปัจจุบัน) ไปที่เมืองลั่วหยาง洛阳
หลังการย้ายเมืองหลวง พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ได้ทรงดำเนินมาตรการในการปฏิรูปประเพณีเก่าแก่ของชาวเซียนเปยและเลียนแบบวัฒนธรรมชาวฮั่นที่เป็นชุด ๆ ซึ่งประกอบด้วยการปฏิรูประบบข้าราชการ การเรียกร้องให้ชาวเซียนเปยสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ของชาวฮั่นและให้ข้าราชการชาวเซียนเปยที่อายุต่ำกว่า 30 ปีพูดภาษาชาวฮั่น การเลือกใช้นามสกุลชาวฮั่นและการรณรงค์ให้ชาวเซียนเปยแต่งงานกับชาวฮั่น ฯลฯ
พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ สนพระทัยในการทรงพระอักษร และทรงยืนยันบริหารประเทศด้วยแนวความคิดของลัทธิขงจื้อ (儒家)พระองค์ได้ทรงยกย่องลูกหลานขงจื๊อให้สืบทอดบรรดาศักดิ์ที่ว่า โฉงเซิ่นโหว(崇圣侯)ทุกชั่วคน พระองค์เคยเสด็จไปบูชาขงจื๊อที่ศาลเจ้าขงจื๊อ(孔庙)ในเมืองฉีฝู่ (曲阜)ทั้งยังทรงส่งเสริมการเผยแพร่ลัทธิขงจื๊อและทรงก่อตั้งโรงเรียนด้วย จึงได้รับการต้อนรับจากปัญญาชนชาวฮั่น

ศาลเจ้าขงจื๊อ(孔庙)ในเมืองฉีฝู่ (曲阜)
พระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ได้ทรงผลักดันการดำเนินมาตรการที่เลียนแบบวัฒนธรรมชาวฮั่นอย่างเอาจริงเอาจัง และทรงปราบการกบฏที่คัดค้านการปฏิรูปอย่างเด็ดขาด ทั้งยังทรงตรวจและควบคุมดูแลการปฏิบัติมาตรการเหล่านี้ด้วยความเข้มงวด วันหนึ่ง พระองค์ได้ทรงเห็นผู้หญิงที่นั้งรถคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าชาวเซียนเปย ก็ทรงำหนิเจ้าผู้ครองเมืองถั้วป๋าเฉิงที่ราชสำนักว่าได้ประมาทเลินเล่อในการตรวจและควบคุมดูแล และทรงสั่งให้ข้าราชการบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดาร(史官记)
การปฏิรูปของพระเจ้าเซี่ยวเหวินตี้ได้เร่งรัดกระบวนการการเลียนแบบและเข้ากับวัฒนธรรมชาวฮั่น และส่งเสริมการประสานกลมกลืนระหว่างชนชาติในภาคเหนือของจีน อนึ่ง ที่ดินรกร้างที่อยู่รอบข้างเมืองลั่วหยางจำนวนมหาศาลได้บุกเบิกให้เป็นที่ดินเพาะปลูก การเมืองและเศรษฐกิจของราชวงศ์เว่ยเหนือได้พัฒนาคืบหน้าไปมาก อำนาจรัฐของราชวงศ์เว่ยเหนือจึงได้มั่นคงยิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก
· หนังสือ “ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ประเทศจีน (中国历史常识)” – The Overseas Chinese Affairs Office of the State Council / The Office of Chinese Language Council International. – สำนักพิมพ์สุขภาพใจ
· http://tech.163.com/06/0816/21/2OM76E680009205I.html
· http://jingdian.tuniu.com/fengjing/13842
· http://www.chaoxian.com.cn/news/html/62/t-1362.html
· http://www.lytv.com.cn/lytv/hlwh/hlmr/webinfo/2011/07/1309857175316504.htm
· http://tupian.hudong.com/s/%E5%85%AC%E5%85%83483%E5%B9%B4/xgtupian/1/1
· http://jingdian.tuniu.com/fengjing/1549