战国七雄
วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 www.jiewfudao.com

เจ็ดแคว้นแห่งยุคจั้นกั๋ว(战国七雄)
สงครามนับครั้งไม่ถ้วนในยุคชุนชิวทำให้จำนวนของแคว้นต่าง ๆ ลดลงมากเมื่อมาถึงยุคจั้นกั๋ว แคว้น 7 แคว้นที่มีอำนาจเข้มแข็งได้แก่ ฉี(齐) ฉู่(楚) เยียน(燕) หาน(韩) จ้าว(赵) เว่ย(魏) จิ๋นหรือฉิน(秦) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เจ็ดแคว้นแห่งยุคจั้นกั๋ว(战国七雄)”
ช่วงต้นของยุคจั้นกั๋ว แคว้นหาน จ้าว และเว่ยได้รวมกันเป็นสหพันธรัฐ(联盟) รบชนะแคว้นใหญ่ ๆ เช่น ฉี จิ๋น ฉู่ ฯลฯ กลายเป็นประเทศที่มีอำนาจเข้มแข็ง ต่อมาสหพันธรัฐนี้ได้ล่มสลายลง แคว้นฉีและแคว้นจิ๋นจึงเริ่มมีอำนาจเข้มแข็งขึ้นมาแทน
ช่วงกลางของยุคจั้นกั๋ว กองทัพแคว้นเว่ยได้บุกตีแคว้นจ้าว แคว้นจ้าวจึงขอความช่วยเหลือไปยังแคว้นฉี ขณะนั้นเมืองหลวงของแคว้นเว่ยไม่มีทหารประจำการอยู่เลย นายพลซุนปิ้นจึงได้นำกองทัพแคว้นฉีไปบุกเมืองหลวงของแคว้นเว่ย ขณะที่กองทัพแคว้นเว่ยได้บุกเมืองหลวงของแคว้นจ้าวได้แล้วนั้น ก็ได้ข่าวว่าแคว้นตัวเองตกอยู่ในอันตราย จึงรีบถอนทัพจากแคว้นจ้าว กลับไปช่วยแคว้นเว่ยของตน เมื่อเดินทัพมาถึงครึ่งทาง ก็ได้ประสบกับกองทัพฉีที่ซุ่มอยู่ กองทัพฉีได้ปิดทางกองทัพเว่ยไว้ และเปิดศึกกับกองทัพเว่ย ในที่สุดกองทัพฉีได้รับชัยชนะ นี่ก็คือตัวอย่างกลยุทธ์ศึกที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน เรียกว่า “ล้อมเว่ยช่วยจ้าว(围魏救赵)”

ซุนปิ้น(孙膑)
หลังจากนั้นสองปีแคว้นเว่ยบุกโจมตีแคว้นหาน ภายใต้การบังคับบัญชาของซุนปิ้น(孙膑) กองทัพแคว้นฉีได้ปิดล้อมแคว้นเว่ยเพื่อช่วยแคว้นหาน ทหารฉีแสร้งทำเป็นถอนทัพ โดยในวันแรกถอนค่ายทหารเหลือเตาซึ่งสามารถทำอาหารให้คนกินได้หนึ่งแสนคนทิ้งเอาไว้ พอวันที่สองเหลือเตาซึ่งสามารถทำอาหารให้พอกับคนจำนวนห้าหมื่นคนทิ้งไว้ ส่วนวันที่สามเหลือเตาซึ่งสามารถทำอาหารให้คนกินได้สามหมื่นคน กองทัพเว่ยคาดคะเนจากจำนวนเตาที่เหลือทิ้งไว้ว่าทหารกองทัพฉีได้หลบหนีไปแล้วจำนวนมาก จึงได้คัดเลือกทหารฝีมือดีไล่ตามกองทัพฉีไป จนไล่ตามถึงหม่าหลิง (ปัจจุบันอยู่ที่มณฑลเหอหนาน) ผลก็คือกองทัพเว่ยถูกกองทัพฉีซึ่งซุ่มอยู่ที่นั้นตีแตกกระจาย นี่ก็คือ “ศึกหม่าหลิง(马陵)” ที่มีชื่อเสียง หลังจากสงครามสองครั้งนี้ แคว้นฉีก็ขึ้นเป็นมหาราชาแห่งที่ราบตอนกลางแทนแคว้นเว่ย
ช่วงปลายของยุคจั้นกั๋ว แคว้นจิ๋นนับวันยิ่งมีอำนาจมากขึ้น แคว้น 6 แคว้นที่เหลือไม่สามารถต่อต้านแคว้นจิ๋นเพียงลำพังได้ จึงคิดที่จะรวมตัวกันเพื่อร่วมกันปราบแคว้นจิ๋น แคว้นจิ๋นได้ทำให้แคว้นทั้งหกแตกคอกันเพื่อจะได้ปราบแคว้นที่เหลือทั้ง 6 แคว้นได้สะดวกขึ้น ส่งผลให้แคว้นทั้งหกต่างมีความสัมพันธ์กับแคว้นจิ๋นแนบแน่นยิ่งขึ้น แคว้นต่าง ๆ ล้วนนึกถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญมักจะไม่ลงรอยกัน ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของแคว้นจิ๋น แคว้นจิ๋นจึงได้ปราบแคว้นต่าง ๆ เรื่อยมา และสุดท้ายได้ปราบราชวงศ์โจว(周) รวมประเทศจีนให้เป็น 1 เดียว(统一了中国)
อ้างอิงจาก
· หนังสือ “ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ประเทศจีน (中国历史常识)” – The Overseas Chinese Affairs Office of the State Council / The Office of Chinese Language Council International. – สำนักพิมพ์สุขภาพใจ
* http://xhcf.blog.sohu.com/35758237.html
* http://tieba.baidu.com/f?kz=482567684