1.ใช้กับบริบทที่พูดถึงขนาด และสรรพสิ่ง เป็นคำตรงข้ามกับคำว่า 大 แปลว่า “เล็ก”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
我的卧室比较小, 只能睡一个人。
wǒ de wòshì bǐjiào xiǎo, zhǐ néng shuì yí gè rén.
ห้องนอนของฉันค่อนข้างเล็ก สามารถนอนได้แค่คนเดียว
|
ตัวอย่างที่ 2
|
你喜欢胸大还是胸小的女人,还是不大不小,刚刚好?
nǐ xǐhuan xiōng dà háishì xiōng xiǎo de nǚrén,
háishì bú dà bù xiǎo, gāng gāng hǎo?
เธอชอบผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ หรือว่าหน้าอกเล็ก หรือว่าไม่ใหญ่ไม่เล็ก(ไม่เล็กไม่ใหญ่) กำลังดี
|
2.ใช้กับบริบทที่พูดถึงสัตว์ที่มีขนาดเล็ก แปลว่า “(ตัว)เล็ก”
|
ตัวอย่าง แปลว่า “(ตัว)เล็ก”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
ตัวอย่างที่ 2
|
贼蚁是世界上最小的蚂蚁。
zéiyǐ shì shìjiè shàng zuì xiǎo de mǎyǐ.
มดคันไฟเป็นมดที่(ตัว)เล็กที่สุดในโลก
|
我的马比这只马小。
wǒ de mǎ bǐ zhè zhī mǎ xiǎo.
ม้าของฉัน(ตัว)เล็กกว่าม้าตัวนี้
|
กรณีวาง 小ไว้หน้าคำนามที่เป็นสัตว์อายุยังน้อย แปลว่า “ลูก..”; “..น้อย”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
ตัวอย่างที่ 2
|
刚出生两周的小狗(狗)怎么养?
gāng chūshēng liǎng zhōu de xiǎogǒu(gou) zěnme yǎng?
ลูกสุนัข/หมาน้อยเพิ่งจะคลอด 2 สัปดาห์ เลี้ยงยังไง
|
这只小猫(咪)太可爱了。
zhè zhī xiǎo māo(mī)
tài kě'ài le.
ลูกแมว/แมวน้อยตัวนี้น่ารักมากเลย
|
3.ใช้กับบริบทที่เป็นนามธรรม เช่น อายุ การเปลี่ยนแปลง อารมณ์ เป็นต้น แปลว่า “น้อย”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
你年龄也不小了, 不想结婚吗?nǐ niánlíng yě bù xiǎo le, bù xiǎng jiéhūn ma?
อายุเธอก็ไม่(ใช่)น้อยแล้ว ไม่อยากแต่งงานหรอ
|
ตัวอย่างที่ 2
|
多年后,朋友们再次相遇,有些人变化很大,有些人变化很小。
duō nián hòu, péngyou men zài cì xiāngyù, yǒuxiē rén biànhuà hěn dà,
yǒuxiē rén biànhuà hěn xiǎo.
หลังจากผ่านมาหลายปี (พวก)เพื่อน ๆ พบกันอีกครั้ง
บางคนเปลี่ยน(แปลง)ไปเยอะมาก บางคนเปลี่ยน(แปลง)ไปน้อยมาก
|
4.ใช้กับบริบทที่พูดถึงปัญหาหรือเรื่องราวต่างๆ แปลว่า “เล็ก(ๆ)”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
ตัวอย่างที่ 2
|
这是大问题,不是小问题。
zhè shì dà wèntí,
bú shì xiǎo wèntí.
นี่เป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาเล็ก(ๆ)
|
我总是爱哭,一点小事就想哭。
wǒ zǒngshì ài kū,
yìdiǎn xiǎoshì jiù xiǎng kū.
ฉันมักจะชอบร้องไห้ เรื่องเล็กนิดเดียวก็อยากร้องไห้
|
5. ใช้พูดถึงฝนตก แปลว่า “ปรอยๆ”
|
外面在下小雨, 别忘记带雨伞。wàimiàn zài xià xiǎoyǔ,bié wàngjì dài yǔsǎn.
ข้างนอกฝนกำลังตกปรอยๆ อย่าลืมพกร่ม
|
6.เป็นภาษาพูด มีความหมายเดียวกันกับ小孩(子)แปลว่า “เด็ก”
|
ตัวอย่างที่ 1
|
小
|
小孩(子)
|
我一直觉得自己还小。
wǒ yìzhí juéde zìjǐ hái xiǎo.
ฉันรู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวเองยังเด็ก
|
我一直觉得自己还是小孩(子)。
wǒ yìzhí juéde zìjǐ háishì xiǎohái (zi).
ฉันรู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวเองยัง(เป็น)เด็ก(อยู่)
|
ตัวอย่างที่ 2
|
不小 แปลว่า “ไม่เด็ก”
|
不是小孩(子) แปลว่า “ไม่ใช่เด็ก”
|
他已经不小了,能照顾自己了。
tā yǐjīng bù xiǎo le,
néng zhàogù zìjǐ le.
เขาไม่เด็กแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
|
他已经不是小孩(子)了,
能照顾自己了。
tā yǐjīng bù shì xiǎohái (zi) le,
néng zhàogù zìjǐ le.
เขาไม่ใช่เด็กแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
|
หมายเหตุ: ทั้งนี้การใช้ 小ที่แปลว่า “เด็ก” ต้องดูบริบทเพิ่มเติม หากเป็น 小孩子 จะมีอายุโดยประมาณที่ชัดเจน โดยมากอายุไม่เกิน 18 ปี ส่วน 小 จะไม่ได้ระบุอายุที่ชัดเจน เช่น แมรี่อายุ 50 ปี ไมเคิลอายุ 78 ปี , เราจะพูดเป็นภาษาจีน
แมรี่เด็กกว่าไมเคิลว่า: 玛丽比麦克小。Mǎlì bǐ Màikè xiǎo. เป็นต้น
|
7.เป็นภาษาพูดนิยมใช้นำหน้าแซ่หรือชื่อคน โดยเรียกทักด้วยความเอ็นดู สนิทชิดเชื้อ โดยทั่วไปผู้ใหญ่นิยมใช้เรียกผู้ที่เด็กกว่า หัวหน้าเรียกลูกน้อง เป็นต้น
|
หมายเหตุ: นิยมนำหน้าแซ่ รองลงมาคือชื่อพยางค์สุดท้าย เช่น ชื่อ张美丽。นิยมเรียกว่า 小张 รองลงมาคือ 小丽 แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนจีนเรียก 小美 เช่นกัน ขึ้นอยู่กับจริต คำศัพท์ของชื่อนั้น ๆ อันไหนน่าเรียกมากกว่ากัน เป็นต้น
|
ตัวอย่างที่ 1
|
老板: 小王, 帮我去买三瓶可乐和一包烟。
lǎobǎn: Xiǎo Wáng, bāng wǒ qù mǎi sān píng kělè hé yì bāo yān.
เถ้าแก่/ เจ้านาย: เสี่ยวหวัง ช่วยฉันซื้อโค้ก 3ขวดกับบุหรี่ซองหนึ่ง
小王: 好的。hǎo de. ครับผม / okครับ /ได้ครับ
หมายเหตุ: ในบริบทที่ 老板 พูด ยังสามารถพูดว่า小王, 去帮我买三瓶可乐和一包烟。ได้อีกด้วย ทั้งนี้อยู่ที่จริตคนจีนว่าจะพอใจพูดแบบไหนค่ะ
|
ตัวอย่างที่ 2
|
小杨 : 老陈, 你今天要去打篮球吗?
Xiǎo Yáng: Lǎo Chén, nǐ jīntiān yào qù dǎ lánqiú ma?
เสี่ยวหยาง : เหล่าเฉิน วันนี้คุณจะไปเล่นบาสเก็ตบอลไหม
老陈 : 不去。小杨,你和我哥去吧。
Lǎo Chén: bú qù. Xiǎo Yáng, nǐ hé wǒ gē qù ba.
เหล่าเฉิน: ไม่ไป เสี่ยวหยาง คุณไปกับพี่ชายผมละกัน
|
หมายเหตุ: กรณีที่จะพูดกับคนที่สนิทสนมแต่มีอายุมากกว่า สามารถใช้ 老นำหน้าแซ่หรือชื่อได้
|
ตัวอย่าง 小名 แปลว่า “ชื่อเล่น”
|
我太太,大名叫王玛丽, 小名叫馒头。
就是因为小时候她很喜欢吃馒头,她父母就叫她馒头。
wǒ tàitai, dàmíng jiào Wáng Mǎlì, Xiǎomíng jiào Mántou.jiù shì yīnwèi xiǎo shíhou tā hěn xihuan chī mántou, tā fùmǔ jiù jiào tā Mántou.
ภรรยาผม ชื่อ(นามสกุล)จริงว่า “หวังหม่าลี่” ชื่อเล่นว่า “หมานโถ่ว(หมั่นโถว)” นั้น(ก็)เป็นเพราะว่าตอนเด็ก ๆ เขาชอบกินหมั่นโถวมาก พ่อแม่เขาก็เลยเรียกเขาว่า “หมานโถ่ว”
|
|
|
|
|
|
|