วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 www.jiewfudao.com

            ช่วงสอบ เป็นช่วงวิกฤตของน้อง ๆ หลายคนที่มีเวลาเหลือเพียง 2-3 สัปดาห์(หรือน้อยกว่านั้น) ที่จะต้องจำตัวอักษรจีนมากมายในช่วงระยะเวลาอันสั้น

            พี่จิ๋วเชื่อว่ามีพี่ ๆ น้อง ๆ หลายท่านที่เรียนภาษาจีนจะประสบพบเจอปัญหาในเรื่องของ การจำตัวอักษรจีน โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบ ส่วนนึงมีวิธีการจำอักษรจีนแบบพี่จิ๋วสมัยก่อน

*  คัดอักษรจีนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจำได้ (ช่วงสอบพี่จิ๋วนิ้วด้านเลยค่ะ) ซึ่งวิธีการจำแบบนี้พี่จิ๋วค้นพบว่าพอหลังจากสอบเสร็จเราจะจำอักษรจีนที่เราท่องมาในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ได้เพียง 50 เปอร์เซนต์หรือน้อยกว่า

            บทความนี้เป็นประโยชน์ทั้งกับผู้เริ่มเรียนและน้อง ๆ ที่อยู่ในช่วงใกล้สอบภาษาจีน เนื่องจากเป็นเทคนิคการจำอักษรจีนในระยะเวลาอันรวดเร็ว  จำแน่นติดหัว ฝั่งนานกว่าการจำโดยคัดมือหงิก เทคนิคเราจะอาศัยสมาธิและจินตภาพค่ะ

เทคนิคที่พี่จิ๋วอยากจะร่วมแชร์มีดังนี้ค่ะ

1. ทำสมาธิก่อนจำอักษรจีน : ประมาณ 5 นาทีค่ะ วิธีที่พี่จิ๋วนั่งสมาธิคือ ดูลมหายในเข้าออก หายใจเข้าพุทธ  หายใจออกโธ นับ1 แล้วก็พุทธโธแบบนี้สัก 50-60 ครั้งค่ะ

2. เมื่อทำสมาธิเสร็จ เราจะเริ่มจำอักษรจีนกันค่ะ ตามขั้นตอนดังนี้

* นำอักษรมาดูว่าลำดับขีดของอักษรตัวนี้เป็นอย่างไร แล้วเขียนตามกึ่งจำ 1 รอบ

* หลังจากนั้นเขียนตัวอักษรตามลำดับขีดอักษรนั้นให้คล่องมือ 3 รอบ

* หลับตาแล้วนึกภาพว่าเรากำลังเขียนอักษรจีนตัวนั้นอยู่

* เมื่อเขียนเสร็จในจินตนาการแล้ว ให้ลืมตาขึ้นแล้วเขียนในกระดาษดูว่าจำได้หรือไม่

3. หลังจากพบว่าจำได้แล้วให้ท่องอักษรจีนตัวต่อไปได้เลยค่ะ เมื่อจำอักษรจีนตัวต่อไปได้แล้ว ให้หมั่นย้อนมาทวนตัวแรก ๆ ที่เราจำผ่านมาทุกครั้ง

            เพียงเท่านี้น้อง ๆ จะพบว่า ไม่เปลืองกระดาษคัด  ไม่เปลืองหมึกปากกา  นิ้วไม่ด้าน ไม่เสียเวลาในการท่องจำเยอะ และจำแน่นติดหัวกว่าค่ะ

            มาถึงตรงนี้พี่ ๆ น้อง ๆ หลายท่านจะมีคำถามว่าถ้าเราจำอักษรแบบให้เทียบภาพที่มาของอักษรอย่างสไตล์ ฮั่นจื้อกง นี้จะจำง่ายกว่าไหม

            พี่จิ๋วขออนุญาติมีความคิดเห็นว่า เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการศึกษาแบบอยากรู้ที่มาของตัวอักษรจีนนั้น ๆ ไปในตัว ซึ่งพี่จิ๋วมองว่าได้ผลดีในเฉพาะกลุ่มและสถานการณ์ค่ะ  แต่หากเป็นน้อง ๆ นิสิตนักศึกษา  ต้องจำอักษรเพื่อสอบเป็นหลักร้อยหลักพันตัว คงจะใช้วิธีนี้ลำบาก เนื่องจากระยะเวลาไม่อำนวย

            แต่ทั้งนี้หากนอกเหนือจากเวลาสอบ พี่ ๆ น้อง ๆ ควรจะศึกษาข้อมูลที่มาของอักษรจีนประดับความรู้ไว้บ้างเพราะอักษรแต่ละอักษรจีนล้วนมีที่มาจากภาพวาด พี่จิ๋วมองว่ารู้ไว้ใช่ว่าค่ะ

            พี่จิ๋วหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับพวกเราชาวจิ๋วฝูเต่าไม่มากก็น้อยค่ะ