ที่มาของกระดาษเงินกระดาษทอง
บทความนี้นอกจากจะอ้างอิงจากบทความภายนอกแล้ว ยังได้รับเกียรติจากแม่พี่จิ๋วเอง (คุณแม่วรรณี จิรันธร)ในการให้ความรู้เพิ่มเติมเรื่องกระดาษเงินกระดาษทอง และเครื่องไหว้เจ้า ประจวบเหมาะกับวันที่ 14 กันยายน 2551 ที่ผ่านมาตรงกับวันไหว้พระจันทร์ จึงได้มีโอกาสสอบถามแม่เป็นการใหญ่ ทั้งนี้ พี่จิ๋วได้นำมารวบรวมไว้อยู่ในบทความนี้ด้วย หวังว่า น้อง ๆ คนรุ่นใหม่ หรือผู้ที่สนใจทั่วไปจะได้รับความรู้ตรงนี้กลับไปไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ
ประวัติที่มาของการเผา กระดาษเงินกระดาษทอง แท้ที่จริงเริ่มมาจากรัชสมัย พระเจ้าลังไท่จง (พ.ศ. 1170-1193) แห่งราชวงศ์ถัง สาเหตุที่พระองค์ส่งเสริมก็คือ ตอนที่ครองราชย์ใหม่ ๆ ด้วยทรงเป็นห่วง เกรงว่าบ้านเมืองจะไม่สงบเรียบร้อย อัครเสนาบดีเว่ยเจิงจึงถวายแผนการว่า ขอให้พระองค์ทรงทำเป็นว่าป่วยหนักแล้ววิญญาณได้ไปท่องเที่ยวในนรก และได้ถูกพวกผีเปรตมากมายห้อมล้อม วิงวอนให้พระองค์ทรงโปรดสงเคราะห์ช่วยเหลือ พระองค์ได้รับปากว่ารอให้กลับเมืองมนุษย์ก่อนแล้วจะหาวิธีส่งเงินทองไปให้พวกเขา ด้วยเหตุนี้จึงได้แนะนำส่งเสริมให้ประชาชนเผากระดาษเงินกระดาษทองสงเคราะห์พวกเปรต
เหตุผลประการที่ 1 คือ เป็นการเพิ่มงานอาชีพและรายได้แก่ประชาชน
เหตุผลประการที่ 2 ทำให้ประะชาชนรู้ว่านรกมีจริง บาปบุญคุณโทษมีจริงเป็นการเตือนสติไม่ให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าว จึงส่งเสริมการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ประชาชนก็เชื่อคิดว่าเป็นความจริง จึงไม่กล้าทำบาปทำชั่ว บ้านเมืองจึงเกิดความร่มเย็นสงบสุขนับแต่นั้นมากระดาษเงินกระดาษทองแต่ละประเภท
คนจีนเชื่อกันว่า เมื่อตายไปแล้วจะไปยังอีกภพโลกหนึ่ง เรียกว่า "อิมกัง" ดังนั้นลูกหลานจึงต้องส่งเงินทองไปให้ เพื่อแสดงความกตัญญู ด้วยการไหว้เจ้า แล้วเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ และการไหว้เจ้ายังเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน ให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งกระดาษเงินกระดาษทองบางแบบใช้ไหว้เจ้า บางแบบใช้ไหว้บรรพบุรุษ
เทียนเถ่าจี้ คือกระดาษสีแดงขนาดใหญ่มีอักษรจีนเป็นมงคล มีทั้งหมด 5 ท่อน ความหมายของคำมงคลจะแปลว่าขอให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภ ให้พระเจ้าคุ้มครอง เทียนเถ่าจี้ จะใช้ไหว้เทพเจ้าเพียงอย่างเดียว จะไม่ใช้ไหว้บรรพบุรุษหรือคนตาย

เทียนเถ่าจี้
กิมจั้ว หรือ งึ้งจั๊ว (แม่พี่จิ๋วบอกว่า เรียก กิมงิ่ง จั้วก็ได้ค่ะ)หมายถึงกระดาษเงินกระดาษทอง เวลาจะไหว้จะทำเป็นชุด ก่อนไหว้ลูกหลานจ้องนำมาพับเป็นรูปดอกไม้เพราะนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังทำให้เผากระดาษให้มอดได้ง่ายอีกด้วย ส่วนใหญ่จะใช้ไหว้บรรพบุรุษ ไม่นิยมใช้ไหว้เทพเจ้า

กิมจั้ว หรือ งึ้งจั๊ว
กิมเต้า หรือ งึ้งเต้า หรือถังเงินถังทอง ใช้ไหว้เจ้าที่ ไหว้เทพยดาฟ้าดิน ข้างบนถังเงินถังทองจะมีกระดาษสีแดง ฉลุคำมงคล โดยแปลว่า ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข


กิมเต้า หรือ งึ้งเต้า
กิมเตี๊ยว คือ แท่งทอง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้คนตาย

กิมเตี๊ยว
อิมกังจัวยี่ คือแบงก์กงเต็กนั่นเอง ไหว้เทพเจ้าไม่ได้

อิมกังจัวยี่
อ่วงแซจิ่ว หรืออวงแซจี้ ใช้เผาเป็นใบเบิกทาง ไปสวรรค์สำหรับผู้ตาย เป็นกระดาษสีเหลืองมีอักษรจีนสีแดงเป็นวงกลม ชาวจีนเชื่อถือว่าเป็นคัมภีร์ของโมกข์คลาสารีบุตรผู้ท่องแดนภพภูมิ 15 ชั้น เพื่อจะพบมารดาผู้ตกอยู่ในนรกภูมิและได้โปรดสัตว์ในนรกภูมิ 15 ชั้น
อวงแซจี้ ในส่วนของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย จะเป็นกระดาษสีเหลือง ภายในจารึกอักษรสันสกฤต และทิเบต ด้วยสีแดง เป็นคาถา หรือธารณี ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า มุมทั้งสี่ด้านเป็นรูปดอกบัวเล็ก ส่วนอีกมุมด้านล่างเป็นดอกบัวใหญ่ และมีชื่อของวัดแต่ละวัดจารึกไว้ด้วย
อวงแซจี้ ก่อนที่จะนำไปใช้ต้องผ่านการกระทำพิธีพุทธาภิเสก ด้วยการสวดจุลสุขาวดีสุตร และสวดคาถาจุติสุขาวดี 108 จบเป็นเวลา 7 วัน ก่อนถึงจะนำไปใช้ได้ ซึ่งในการทำอวงแซจี้นั้นจะต้องโยงด้ายสายสิญไปผูกกับพระศรีศากยะมุนีพุทธเจ้า และพระอมิตาภะพุทธเจ้า และพระอวโลกิเตศวร ปางดุ (ไต่สือเอี้ย) ปางนี้หาดูได้ที่เดียวในเมืองไทยที่วัดโพธิ์แมนคุณาราม
ลัทธิเต๋าเป็นผู้ที่ได้รับคัมภีร์นี้จึงเผยแผ่แก่พุทธมหายานจนทุกวันนี้ ผู้ที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษนั้นเพื่อจะให้อยู่สุขสบายในภพภูมิหรือเป็นใบบอกผ่านทางระหว่างลกมนุษย์กับภพภูมิเพื่อจะมาเยี่ยมลูกหลาน

อ่วงแซจิ่ว
เพ้า คือ ชุดของเทพเจ้า คล้ายกับที่คนไทยถวายผ้าห่มพระพุทธรูป มีการทำของเจ้าหลายองค์ เช่น ชุดของเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่ทับทิม พระพุทธ ส่วนใหญ่จะบ่นไว้กับเทพเจ้าแล้วนำมาแก้บน
ตั้วกิม หรือค้อซี คือ กระดาษทอง เป็นกระดาษสีส้ม และมีสีทองตรงกลางนำไปไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ส่วนมากจะพับเป็นแบบต่าง ๆ เช่น

ตั้วกิม
เงินจีนสมัยโบราณ หรือเรียกในภาษาจีนแต้จิ๋วว่า"กิมตุ้ง" เป็นค่าเงินที่สูงที่สุดในชั้นเทพเจ้า และการพับแบบเงินจีนนั้น จะไว้ใช้ไหว้กับเทพเจ้าเท่านั้น ซึ่งต้องใช้กระดาษตั่วกิมถึง 2 แผ่นในการพับ

เงินจีนสมัยโบราณ
ดอกบัว ไม่คอยนิยมพับกันเนื่องจากต้องอาศัยระยะเวลาในการพับค่อนข้างมาก

ดอกบัว
พับเป็นกงจักร ใช้ไหว้บรรพบุรุษหรือตี่จู้เอี๊ย

กงจักร (ในภาพ แม่พี่จิ๋วกำลังสาธิตวิธีการพับแบบกงจักร)
แบบซังท้อ หรือเรียกอีกอย่างว่าแบบท้อคู่ เชื่อกันว่าไหว้แล้วจะทำให้อายุยืน

แบบซังท้อ
แบบพับเป็นเรือ เรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี" เชื่อกันว่าการพับเรือ จะได้มูลค่าสูงกว่าการพับอย่างอื่นใช้ไหว้ได้ทุกอย่าง (สำหรับในโลกของคนตาย)โดยเฉพาะพิธีทำกงเต๊ก ลูกหลานต้องพับค้อซีแบบเรือ ให้มากที่สุด เป็นกระดาษเงินกระดาษทองที่ญาติสนิทนำไปไหว้ผู้ตาย เป็นต้น
แบบพับเป็นเรือ เรียกว่า "เคี้ยวเท่าซี"
โกวอีพิมพ์ เป็นชุดไหว้สิ่งของเครื่องใช้ที่จัดเอาไว้สำหรับไหว้ผู้ที่เสียไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจะมีเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับแยกชายหญิงต่างหาก
ชุดไหว้แบบพิเศษของผู้ชาย เครื่องประดับชาย ชุดไหว้แบบพิเศษของผู้หญิง

เครื่องประดับหญิง เครื่องประดับแบบเก่าที่ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย เครื่องประดับแบบนักธุรกิจ
เหรียญเงินเหรียญทอง หากมีธนบัตรก็ต้องมีเหรียญ ไหว้เทพเจ้าไม่ได้

เหรียญเงินเหรียญทอง
อ่วงป้อตั่วกิม หรือประกอบด้วยกระทง(อ่วงป้อ) และตั่วกิม โดยทั่วไปจะใช้กระทง 1 ใบต่อกระดาษตั่วกิม 12 แผ่น สาเหตุที่ใช้ตั่วกิม 12 แผ่นเพราะว่า ใน 1 ปีมี 12 เดือนนั้นเอง แต่ที่บ้านพี่จิ๋ว แม่บอกเคล็ดลับที่ได้จากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระจีนสมัยก่อนว่าให้ใช้ อ่วงป้อ 2 แผ่นต่อ ตั่วกิม 16 แผ่น ซึ่งนั้นจะหมายถึงว่าพระอรหันต์ 18 พระองค์จะมาคุ้มครองเราค่ะ อ่วงป้อตั่วกิม เป็นของไหว้เจ้าและไหว้ตี่จู้เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอโชคลาภให้ร่ำรวยและเพื่อตอบแทนที่ท่านช่วยให้ประสบความสำเร็จ

อ่วงป้อตั่วกิม(ใช้ได้ทั้ง 2 แบบค่ะ) อ่วงป้อ หรือกระทง
การเผากระดาษเงินกระดาษทองจะต้องทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้ทุกคนได้เส้นไหว้เสร็จ ก็จะทำการ "เหี่ยง" หรือจบเหนือศีรษะ ระหว่างนี้ให้ทำการอธิฐานขอพรไปด้วย แล้วจึงนำไปเผา เมื่อไฟมอดแล้วจึงไหว้ลา เป็นการเสร็จพิธี
ภาพตัวอย่างการจัดโต๊ะไหว้เจ้า (เจ้าแม่กวนอิม)
ว่าแล้วก็ขอแนะนำและขอขอบคุณ คุณแม่วรรณี จิรันธร ซึ่งท่านเป็นแม่พี่จิ๋วเอง ที่สอนและแนะนำวิธีการจัดโต๊ะไหว้เจ้าให้พี่จิ๋วได้มาบอกต่อแก่น้อง ๆ และผู้ที่สนใจ เพื่อศึกษาและสืบสานประเพณีการไหว้เจ้าต่อไปค่ะ

ภาพนี้เป็นภาพโดยรวมในการจัดโต๊ะไหว้เจ้าแม่กวนอิมในวันไหว้พระจันทร์ค่ะ

มาดูกันค่ะว่าไหว้พระจันทร์ที่บ้านพี่จิ๋วไหว้อะไรกันบ้าง เริ่มจาก
** ขนมไหว้พระจันทร์ 4 ชิ้น แม่บอกว่า จะไหว้กี่ก้อนก็ได้แต่ขอให้เป็นเลขคู่
** อี๊ หรือสาคูน้ำแดง 5 ถ้วย ไหว้อะไรที่เป็นกลม ๆ แม่บอกว่าจะทำให้ครอบครัวปรองดองกลมเกลียว
** เครื่องประทินโฉมต่าง ๆ เช่น แป้ง สบู่ เครื่องสำอางค์ เป็นต้น วันไหว้พระจันทร์หากไหว้เครื่องประทินโฉม จะทำให้ตลอดปีเราจะมีหน้าตาที่งดงาม
** ของกินอื่น ๆ อันนี้ไม่ระบุจำนวน อะไรก็ได้ แต่แม่บอกว่า หากไหว้ บะหมี่จะทำให้เรามีอายุยืนยาว
** น้ำชา 5 ถ้วย (เดี๋ยวเทพเจ้าติดคอน่ะ ถ้าไม่มีน้ำให้ท่าน)

** อาหารเจ 5 อย่าง ได้แก่ เห็ดหอม วุ้นเส้น เต้าหู้ ฟองเต้าฮู้ เห็ดฟาง เป็นต้น
** ข้าว 5 ถ้วย
** ผลไม้ 5 อย่าง
** แก้วน้ำใส่ใบทับทิม แม่บอกว่าพอไหว้ แล้วเผากระดาษเสร็จแล้ว ให้เอาใบทับทิม พรมให้ทั่วสิ่งของที่เส้นไหว้ ทั่วบ้าน แล้วก็คน เพื่อให้เกิดสิริมงคล

** แผ่น 8 เซียน แผ่นนี้จะใช้ไหว้เฉพาะในวันไหว้พระจันทร์เท่านั้นค่ะ เพราะชาวจีนเชื่อว่าในวันไหว้พระจันทร์ เซียนทั้ง 8 จะลงมาให้พรแก่มนุษย์ค่ะ
** และที่ขาดมิได้คือกระดาษเงินกระดาษทองนั้นเองค่ะ

** เมื่อจัดทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็จุดธูป 3 ดอก ไหว้ขอพรกันเลยค่ะ (ในภาพเป็นพี่สาวของพี่จิ๋วเองค่ะ) เมื่อไหว้เสร็จแล้ว เราก็จะเหี่ยงกระดาษเงินกระดาษทองเพื่อนำไปเผา เมื่อเผาเสร็จนำใบทับทิมที่อยู่แก้วน้ำมาพรมให้ทั่วของเส้นไหว้ ทั่วบ้าน แล้วก็คน เพื่อให้เกิดสิริมงคล ขั้นตอนสุดท้ายคือเหี่ยงของไหว้ หรือลาของไหว้ เพื่อนำไปใช้ นำไปกินกันต่อไปค่ะ
อ้างอิงจาก
คุณแม่วรรณี จิรันธร
http://th.wikipedia.org
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1026723
http://www.somcharoen.com/chinese_newyear2002/index_products_paper01.htm